Spaceman มนุษย์ขี้เหงา กับ แมงมุมสอดรู้
สถานการณ์เริ่มเลวร้ายลงเมื่ออุปกรณ์ต่างๆ ภายในยานทยอยเสียไปทีละตัวเริ่มตั้งแต่ชักโครก ไปจนถึงกล้องวงจรปิด จนกระทั่งวันหนึ่งยาคุบก็ได้พบผู้บุกรุกเข้ามาในยานนั่นคือแมงมุมยักษ์พูดได้ มีความสามารถในการเข้าถึงจิตใจและความทรงจำของมนุษย์ แมงมุมตัวนี้เริ่มสนใจและอยากเรียนรู้อะไรบางอย่างในตัวยาคุบ และเหตุผลที่เขาจากโลกมาไกลโดยทิ้งภรรยาที่กำลังตั้งครรภ์ไว้ข้างหลัง
ตัวภาพยนตร์เล่าเรื่องราวสลับกันไปมาระหว่างอดีตกับปัจจุบัน เปิดเผยทั้งด้านสว่างและด้านมืดในจิตใจมนุษย์ ผสมกับแนวคิดการเมืองการปกครอง และการตั้งคำถามว่า ทำไมยาคุบถึงเลือกที่จะทิ้งครอบครัวแล้วเดินทางออกไปนอกโลก ความกล้า ความกลัว ความเหงา ความรัก พล็อตเรื่องเดาทางได้ไม่ยาก ปัญหาครอบครัวที่ทุกคนมีโอกาสได้เจอ แต่สิ่งที่เรื่องนี้ทำได้น่าประทับใจก็คือ การเดินเรื่องให้ผู้ชมได้สำรวจเบื้องลึกของตัวละครแต่ละตัว ในพฤติกรรมพ่อแง่ แม่งอน ของยาคุบและภรรยา นั้นเกิดจากอะไร แท้จริงแล้ว แมงมุมเป็นใครและต้องการอะไรจากยาคุบ และธุลีดาวสีม่วงคืออะไรในความหมายของจักรวาล
ในมุมงานโปรดักชัน ดูเป็นภาพยนตร์ที่ใช้ต้นทุนต่ำ แต่ทำออกมาได้ดี ในแง่ของการตีความและบอกเล่าเรื่องราวในเบื้องหลัง การจิกกัดเรื่องการแข่งขันกันทำภารกิจของเช็ก กับ เกาหลีใต้ ทำให้เรานึกถึงยุคการแข่งขันด้านอวกาศของโซเวียตและสหรัฐอเมริกา แต่ในเรื่องใช้สาธารณรัฐเช็ก เป็นตัวแทนโซเวียตยุคเก่า และใช้เกาหลีใต้เป็นตัวแทนสหรัฐ ยานอวกาศของเช็กดูเก่าและล้าสมัย ในขณะที่ยานของเกาหลีใต้นั้นดูทันสมัยมากกว่า และแน่นอนว่าทำไม่ภารกิจที่มีความสำคัญระดับนี้ เช็ก ถึงใช้นักบินอวกาเพียงคนเดียว ก็น่าจะสะท้อนถึงต้นทุนการแข่งขัน และค่านิยมบางอย่าง ที่เล่าผ่านงานเขียนของนักเขียนชาวเช็กที่อพยพไปอยู่สหรัฐอเมริกาและได้แต่งนิยายไซไฟเรื่องนี้ขึ้นมา เรื่องราวจึงมีเรื่องการเมืองการปกครองเข้าแทรกเป็นระยะๆ
อย่างไรก็ดี ภาพยนตร์เรื่องนี้น่าจะเหมาะกับสายดูหนังแนวตีความค่อยๆ ซึมซับ เรื่องราว และอารมณ์ของตัวละครจนถึงจุดที่ทุกอย่างลงเอยด้วยดี