Readspread.com

News and Article

สาธุ ตีแผ่ด้านมืดของมารศาสนา ไม่ใช่ด้านมืดศาสนา (มีสปอยเนื้อหา)

เห็นขึ้นแนะนำใน เน็ตฟลิกซ์ หลายวันแล้ว แต่โดนน้องชายบอกว่าควรดู มันดีจริงๆ อ๊ะ พูดมาขนาดนี้แล้วดูหน่อยก็ได้ น้องชายก็เคยบวชเรียนมา ยังบอกว่าดี ก็คงดีจริง พอเปิดดู ก็เออ … ดีอยู่นะ ภาพรวมชอบ 70 เปอร์เซ็นต์ ทีมงานทำการบ้านเรื่องพุทธศาสนามาเกือบสมบูรณ์ ผิดพลาดจุดเล็กๆ น้อยๆ แต่ภาพรวมถือว่าทำออกมาดี ไม่รู้สึกเสียเวลาชีวิต


ขอเริ่มจากจุดผิดพลาดก่อนละกัน ในเรื่องนี้มีจุดที่คิดว่าพลาดตรงที่เรียกพระป่า หรือพระสายธรรมยุตในเรื่อง ว่าพระดล ซึ่งที่จริงแล้ว ชาวบ้านจะนิยมเรียกพระสายนี้ ว่า ครูบา ซึ่งในเรื่องก็ควรเรียก “ครูบาดล” ถึงจะเป็นพระบวชใหม่ก็เรียกครูบา นิยมเรียกในภาคเหนือ และ อีสาน ในภาคกลางเท่าที่ไปหลายๆ วัดที่เป็นธรรมยุต ก็เรียกครูบา เหมือนกัน แต่บางที่ก็เรียก ตุ๊ แต่ในเรื่องจำไม่ได้ว่าเป็นวัดภาคไหนเหมือนจะไม่บอก
ส่วนพระในมหานิกาย ซึ่งในเรื่องเรียกว่าพระบ้าน

เอาจริงๆ ตอนผมบวช จนสึกออกมาทำงาน เข้าทั้งวัดป่า(ธรรมยุต) วัดมหานิกาย ไม่มีใครเรียกว่าพระบ้านนะ แต่ญาติโยมจะถามว่า ท่านเป็น มหานิกาย (เถรวาท) หรือ ธรรมยุต (ธรรมยุติกนิกาย) และก็เรียกเป็นหลวงพี่ หลวงพ่อ หลวงอา หลวงลุง ก็แล้วแต่จะดูว่าพระรูปนั้นน่าจะอายุเท่าคนในครอบครัวคนไหน แต่ไม่แน่ว่าคนจังหวัดอื่น หรือพื้นที่อื่นอาจจะเรียกพระบ้านก็ได้

จุดผิดพลาดต่อมาคือของวัตถุมงคลสำหรับปลุกเสก ในเรื่องวัดสุดท้ายไม่ยอมให้ ซึ่งเป็นไปได้ยากมากถึงมากที่สุด หรือแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่ให้ หากมีหนังสือร้องขออย่างเป็นทางการ ทุกวัดจะเอื้อเฝื้อกันอยู่แล้วแม้จะต่างนิกายกันก็ตาม

จุดต่อมาคือ บทตำรวจ ทุกอย่างเดินเรื่องมาฉลาดมาก มาตกม้าตาย ตรงบทตำรวจ มโนยัดข้อหาแบบดูแล้วกุมขมับเลย แต่นักแสดงกลับเล่นได้ดีดูแล้วเชื่อว่าเป็นตำรวจจริง ทำให้เราอภัยความอ่อนของบทได้อยู่

ฉากจับพระติดยาสึกก็ไม่ใช่ ในกรณีที่ตำรวจจะต้องจับพระสึกเพื่อนำตัวไปดำเนินคดี จะต้องพาพระรูปนั้นไปหาเจ้าอาวาส หรือ เจ้าคณะอำเภอ ในเรื่องให้ผู้ช่วยเจ้าอาวาสเป็นผู้สึก ซึ่งดูแล้วผู้ช่วยไม่น่าจะมีอำนาจในการสึกพระได้ หากเจ้าอาวาสป่วยหนักไม่สามารถดำเนินการสึกได้ ต้องนำตัวไปให้เจ้าคณะอำเภอเป็นผู้สึกพระรูปนั้นแทน และมีขั้นตอนที่มากกว่าการเอามานั่งแล้วให้พระอีกรูปดึงจีวรลงมา

บทที่ดูอ่อนในเรื่องมากที่สุดคือ วิน ผู้มีโอเวอร์แอคติ้ง กับ การพรั่งพรูศัพท์การตลาด ชนิดที่คนทั่วไปฟังแล้วงงว่ามันแปลว่าอะไร ดูตอนแรกก็ไม่คิดอะไรคงเป็นเด็กเรียนด้านนี้มา แต่พอท้ายเรื่องพระเอกชัยถามเรียนจบอะไร วิน ตอบว่า เรียนไม่จบ แต่เรียนวิศวะคอมมา เลยกลายเป็นความแปลกที่ว่าเด็กวิศวะคอม จะพ่นศัพท์การตลาดได้คล่องปากขนาดนี้ ถ้าบอกว่าเรียนจบด้านบริหารการตลาด เรียนนิเทศโฆษณา หรือ บริหารธุรกิจ ยังดูน่าเชื่อถือว่า แต่ลองคิดเข้าข้างให้คือ น้องคงเรียนธุรกิจมาตั้งแต่มัธยมแล้วก็เป็นได้

มาดูที่ข้อดีหรือจุดที่ชอบกันบ้าง จุดแรกคือการเอาปัญหาทุกเรื่อง จุดเด่นทุกอย่างมาไว้ในวัดเดียวถือว่าทำออกมาได้ดี ไม่ขัดหูขัดตาขัดใจเพราะเราคุ้นตากับภาพพวกนี้อยู่แล้ว การผูกปมและการเอาปัญหามาทับซ้อนกันให้ดูวุ่นวาย แต่เป็นไปในทิศทางเดียวกันก็ถือว่าทำได้เกินมาตรฐานหนังไทยหรือซีรีย์ไทยหลายๆ เรื่อง แต่บทพูดก็ยังดูใช้หยาบคายมากเกินไปโดยไม่จำเป็น

บทสนทนาระหว่างตัวละครที่ชอบที่สุดคือตอน ตำรวจด่า วิน เรื่องแยกแยะระหว่างไม่ผิดเพราะคนบริจาคให้เอง กับการฉ้อโกงเจตนาของผู้ให้ช่วงที่ครูบาดล หรือ พระดล เทศน์นั่นก็ยกเอาคำสอนของจริงมาใช้ ฟังแล้วใจร้องบอกว่าใช่ ท่านพูดถูกแล้ว มิขาด มิเกิน ไปกว่านี้ ถึงตอนท้ายจะเขียนบทให้ไปหลงรัก น้องเดียร์ สาวลูกครึ่ง ก็ยังชอบตัวละครนี้อยู่ดูมีมิติดี

งานภาพ ถ่ายทำดี มุมกล้องก็ดี ส่วนงาน CG ผึ้งดูออกง่ายมาก งานเสียงทำได้ดี นักแสดงส่วนใหญ่ในเรื่องเล่นได้ดี ดูจบแล้วให้ข้อคิดกับคนที่ยังงมงายจนเกินคำว่าพอดี ได้ดีมาก

มีคนถามว่าเป็นหนังโจมตีศาสนาพุทธไหม ส่วนตัวมองว่าไม่ใช่ แต่เป็นหนังที่ออกมาแฉตัวมารที่เกาะศาสนากินมากกว่า แล้วก็ทำออกมาได้ดีระดับที่ยอมรับได้ ไม่รู้สึกเสียเวลาชีวิต อยากให้ทีมสร้างเรื่องนี้ไปจับเรื่องศาสนาอื่นอย่างอิสลาม พราห์ม-ฮินดู ดูบ้างน่าจะทำออกมาได้สนุกไม่แพ้กัน (ถ้ามีความกล้าพอเหมือนที่กล้าทำเรื่องสาธุนะ)

About Post Author

เขียนความคิดเห็น

Copyright © Readspread.com ติดต่อฝ่ายข่าว Tel.089-922-7859 Email/[email protected] | Newsphere by AF themes.