Readspread.com

News and Article

HMD Global รุกตลาดส่งท้ายปี 2020 เปิดตัว Nokia 3.4 และ สมาร์ทโฟนกลุ่ม C-Series ที่ทุกคนรอคอย พร้อมอุปกรณ์เสริมรุ่นใหม่

เปิดตัว Nokia 3.4 ครั้งแรกในประเทศไทย พร้อมขนทัพสมาร์ทโฟน อย่าง Nokia C3 และฟีเจอร์โฟน อีก 2 รุ่นที่วางจำหน่ายแล้ว อย่าง Nokia 215 4G และ Nokia 225 4G รุกตลาดสมาร์ทโฟนและฟีเจอร์โฟน ในประเทศไทย
nokia

ภราดร รามบุตร ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท เอชเอ็มดี โกลบอล จำกัด (ประเทศไทย) เผยว่า Nokia เป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนานกว่า 30 ปี เป็นโทรศัพท์ที่มี DNA เฉพาะตัวในเรื่องความทนทาน และความเสถียรในการใช้งาน จนกระทั่ง Nokia ได้นำระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์มาใช้ เราก็ทำการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ภายใต้การทดสอบอย่างหนักหน่วงเกินมาตรฐานการทดสอบสมาร์ทโฟนทั่วไป และทำงานร่วมกับวิศวกรจากกูเกิลเพื่อให้แน่ใจว่าซอร์ฟแวร์และฮาร์ดแวร์ทั้งหมดของ Nokia ทำงานร่วมกันได้เป็นอย่างดี

จนออกมาเป็นสมาร์ทโฟนที่มีความเสถียรสไตล์ฟินแลนด์ แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้อย่างยาวนาน และการบริหารจัดการทรัพยากรเครื่องอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ทำให้สมาร์ทโฟนของ Nokia เป็นหนึ่งในไม่กี่แบรนด์ที่ได้ใช้ระบบปฏิบัติการ Android One โดยไม่มีระบบปฏิบัติการอื่นมาครอบทับ ไม่มี Bloatware ติดมากับตัวเครื่อง และรับประกันการอัปเดตระบบความปลอดภัยอย่างต่อเนื่องโดยตรงจากทางกูเกิล

เพราะอย่างที่เราทราบกันดีระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ เป็นระบบที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดในโลก ดังนั้นการที่เครื่องสมาร์ทโฟนของ Nokia ได้รับการอัปเดต อย่างต่อเนื่อง จะยิ่งทำให้เครื่องมีความปลอดภัยและเสถียรภาพในการทำงานและใช้งานได้อย่างยาวนานมากยิ่งขึ้น

Nokia 3.4 เปิดตัวอย่างเป็นทางการในต่างประเทศเมื่อปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา เจาะกลุ่มสมาร์ทโฟนราคาไม่เกิน 5 พันบาทแต่เต็มเปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพการใช้งาน และเป็น รุ่นแรกในซีรี่ส์ที่ใช้หน้าจอแบบ punch-hole ขนาด 6.39 นิ้ว เพิ่มพื้นที่หน้าจอให้ดูกว้างสบายตา ใช้งานต่อเนื่องได้นานถึง 2 วัน ด้วยแบตเตอรี่ขนาด 4,000 มิลลิแอมป์ เพิ่มประสิทธิภาพด้วยกล้องหลังถึง 3 ตัวขนาด 13 ล้านพิกเซล พร้อมเลนส์ Ultra wide ขนาด 5 ล้านพิกเซล และ เลนซ์ Depth ขนาด 2 ล้านพิกเซล ด้วยระบบ AI อัจฉริยะ มาพร้อมโพรเซสเซอร์ Qualcomm® Snapdragon™ 460 ตัวใหม่ล่าสุด หน่วยความจำและการจัดเก็บข้อมูล 4 / 64GB รองรับไมโครเอสดีขนาด 512 GB พอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 10

นอกจากนี้ Nokia 3.4 ยังเป็นส่วนหนึ่งของ Android One ที่มอบประสบการณ์ซอฟต์แวร์แอนดรอยด์แท้ที่มีความคล่องตัว โดยไม่มี Bloatware จึงรับประกันการอัปเดตระบบความปลอดภัยเป็นระยะเวลา 3 ปี และการอัพเกรดซอฟต์แวร์ต่อเนื่อง 2 ปี ทำให้โทรศัพท์ของคุณ “ยิ่งใช้ ยิ่งดีขึ้นทุกวัน” นอกจากนี้ Nokia 3.4 ช่วยให้คุณเชื่อมโยงกับสมาชิกครอบครัว โดยการให้คุณตั้งค่าขีดจำกัดสำหรับการใช้เวลาอยู่หน้าจอ และช่วยให้คุณติดตามกิจกรรมการใช้แอป เพื่อสร้างความสมดุลและปลอดภัยสำหรับบุตรหลาน เริ่มวางจำหน่ายในวันที่ 27 พ.ย. 2563 ราคา 4,990 บาท

Nokia C3 ด้วยการดีไซน์การออกแบบที่เน้นความอึด ถึก ทน จุดเด่นด้วยหน้าจอ 5.99 นิ้ว ที่สามารถให้ความสว่างสดใสในทุกสภาพแสง พร้อมพลังงานเต็มเปี่ยมให้คุณใช้งานได้ตลอดวันด้วยแบตเตอรี่ขนาด 3040 มิลลิแอมป์ และกล้องคุณภาพสูงขนาด 8 ล้านพิกเซล ออโต้โฟกัส ความกว้างรูรับแสง F2.0 พร้อมแอลอีดีแฟลช กล้องหน้าขนาด 5 ล้านพิกเซล ความกว้างรูรับแสง F2.4 ขับเคลื่อนด้วยระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 10 พร้อมขุมพลังจากโพรเซสเซอร์ Octa-core 1.6 GHz ระบบสแกนลายนิ้วมือ พอร์ตเชื่อมต่อแบบไมโคร ยูเอสบี รองรับการใช้งานคลื่น 4G

หลังตัวเครื่องทำจากวัสดุโพลีคาร์บอเนตที่ทนทานและแข็งแรงสมาร์ทโฟนรุ่นนี้จึงพร้อมรับการกระแทกที่อาจเกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน นอกจากนี้ Nokia C3 มาพร้อมกับการรับประกันการเครื่องใน 1 ปี เปลี่ยนเครื่องใหม่แบบไม่ต้องรอซ่อม (ภายใต้เงื่อนไขการรับประกัน) มั่นใจได้จากเสียงตอบรับที่ดีจากลูกค้าชาวไทย หลังจากประสบความสำเร็จมาแล้วกับNokia C1 และ C2 จำหน่ายในราคา 2,990 บาท พร้อมของแถม ไมโครเอสดีการ์ด ความจุ 32 GB

น้องใหม่ของNokiaอย่าง Nokia 215 4G และ Nokia 225 4G ฟีเจอร์โฟน ที่จะมาตอกย้ำการเป็นเบอร์หนึ่งมือถือปุ่มกด มอบคุณภาพการเชื่อมต่อระดับ 4G และการโทรผ่านเครือข่าย VoLTE ที่ให้คุณภาพเสียงคมชัดสมจริง หากคุณชื่นชอบการถ่ายภาพและความมีระดับที่มากขึ้น Nokia 225 4G มาพร้อมกับกล้องหลังขนาด 0.5 ล้านพิกเซล เพื่อให้คุณสามารถบันทึกช่วงเวลาที่คุณชื่นชอบได้ตลอดเวลา

พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของปุ่มกดและปุ่มฟังก์ชั่นที่ทำให้การพิมพ์มีความแม่นยำมากกว่า และทั้ง 2 รุ่นมาพร้อมกับฟังก์ชั่นไลฟ์สไตล์ที่คุ้นเคย เช่น การฟังวิทยุ และการเล่นเกมอย่างเพลิดเพลิน ราคาเปิดตัว Nokia 215 4G ราคา 1,190 บาท มี 2 สีให้เลือกคือ สีเขียวและสีดำ และ Nokia 225 4G ราคา 1,490. บาท มี 3 สีให้เลือกคือ สีน้ำเงิน สีทอง และสีดำ


ปิดท้ายด้วย Nokia Power Earbuds (BH-605) และ Nokia Power Earbuds Lite (BH-405) หูฟังไร้สายคุณภาพสูงที่จะทำให้คุณเพลิดเพลินไปกับเสียงเพลงไปพร้อมๆ กับการอนุรักษ์ธรรมชาติด้วยการใช้วัสดุรีไซเคิล 100 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งนับเป็นอีกก้าวหนึ่งของ Nokia ในการลดการใช้วัสดุที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของธุรกิจ

ผลิตภัณฑ์ Nokia Power Earbuds (BH-605) มาพร้อมเคสแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 3,000 mAh ช่วยให้คุณใช้งานต่อเนื่องได้นานถึง 150 ชม. ราคา 2,990 บาท ในขณะที่ Nokia Power Earbuds Lite (BH-405) หูฟังไร้สายรุ่นใหม่ล่าสุดจากNokia สามารถฟังเพลงต่อเนื่อง 5 ชั่วโมงต่อการชาร์จ 1 ครั้ง มาพร้อมเคสแบตเตอรี่ 600 mAh สามารถใช้งานต่อเนื่องได้นาน 35 ชม. ราคา 1,990 บาท

ปริญญา พงษ์สิน ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์ บริษัท เอชเอ็มดี โกลบอล จำกัด (ประเทศไทย) กล่าวเสริมถึง Nokia Power Earbuds (BH-605) และ Nokia Power Earbuds Lite (BH-405) ว่า สำหรับหูฟังไร้สายทั้งสองรุ่นนี้มีจุดเด่นคือการใช้ไดร์เวอร์ขับเสียงขนาด 6 mm. Graphene ซี่งวัสดุ Graphene เป็นวัสดุที่ทำจากโมเลกุลของคาร์บอนเรียงตัวในรูปแบบรังผึ้ง มีน้ำหนักเบา แต่ให้ความแข็งแรง ยืดหยุ่น ทนทานกว่าเหล็กกล้าถึง 200 เท่า จึงให้เสียงที่มีคุณภาพสูง คมชัดใสเคลียร์ ขับเสียงเบสได้อย่างหนักแน่น และด้วยน้ำหนักที่เบากว่าวัสดุอื่นจึงช่วยในเรื่องการประหยัดพลังงานแบตเตอรี่ ใช้งานได้ยาวนาน พร้อมดีไซน์และการออกแบบที่สะดวกสบาย

ระบบควบคุมแบบสัมผัสที่ใช้งานง่าย ไม่ว่าจะเป็นการโทรหรือการข้ามเพลง ผ่านมาตรฐานกันน้ำระดับ IPX7 กันน้ำได้ในระดับน้ำ 1 เมตร นาน 30 นาที มาพร้อมกับเทคโนโลยีเชื่อมต่อ Bluetooth 5.0 พร้อมเข้าสู่โลกของเสียงดนตรีในทุกที่ ไม่ว่าเป็นฟิตเนส และกิจกรรมกลางแจ้ง หรือ ทำงานท่ามกลางสายฝน ด้วยความสามารถที่ไร้กังวล สนุกได้ทุกที่ ที่ต้องการ ซึ่งหาหูฟังไร้สายได้น้อยรุ่นในตลาดในระดับราคาไม่เกิน 3,000 บาทแต่ให้คุณภาพและความทนทานเท่ากับ BH-605 และ BH-405 นี้

ยูโฮ ซาร์วิกาส ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตภัณฑ์และรองประธานของอเมริกาเหนือ บริษัท เอชเอ็มดี โกลบอล จำกัด การเปิดตัว Nokia ทั้ง 4 รุ่นในครั้งนี้นอกจากจะแสดงให้เห็นถึง การยึดมั่นในสิ่งที่ทำให้Nokia รุ่นก่อนๆ ประสบความสำเร็จแล้ว ยังฉีกกฎเกณฑ์ของคุณสมบัติเดิมๆ ที่มีการนำมารวมไว้ในโทรศัพท์ โดย Nokia3.4 ออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์ที่ยิ่งใหญ่ ขุมพลังที่มากขึ้น หน้าจอที่ดีกว่า และเพิ่มความเป็นอิสระในด้านความคิดสร้างสรรค์ ด้วยเลนส์ Ultra wide การถ่ายภาพจาก AI อัจฉริยะ และอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานถึง 2 วันจะช่วยให้คุณได้รับประโยชน์สูงสุด นอกจากนี้เรายังนำเสนอสีใหม่ที่สดใสมีชีวิตชีวาซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากความงดงามในธรรมชาติของชาวนอร์ดิก ที่เป็นที่รู้จักและชื่นชอบของคนทั่วโลก

ในงานครั้งนี้ เรายังรักษาเป้าหมายด้วยการนำ Nokia C3 กลุ่ม Nokia C-Series ที่เพิ่มขีดความสามารถสู่ระดับท็อปฟอร์มของแอนดรอยด์ ด้วยระบบปฏิบัติการ Android 10 และหน้าจอขนาดใหญ่ HD+ จับคู่กับกล้องที่มีคุณภาพระดับ HDR ที่สวยงาม และวิดีโอแบบ Full HD นอกจากนี้ Nokia C3 ยังมีเทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่ชาญฉลาดและหน่วยประมวลผล Octa-core processor ช่วยให้มีพลังในทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพตลอดทั้งวัน และในฐานะที่เป็นผู้นำในตลาดฟีเจอร์โฟน ประสบการณ์ของเราช่วยให้เราเข้าใจอย่างลึกซึ้งในสิ่งที่ผู้คนต้องการ ในขณะที่เครือข่ายมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

เราได้ผลักดันตัวเองให้ทำขีดสุดของหน้าที่ความรับผิดชอบ เพื่อจุดมุ่งหมายในการเชื่อมต่อทั่วโลก ด้วยการนำ 4G มาสู่ Nokia 215 4G และ Nokia 225 4G และออกมาในราคาที่จับต้องได้ เราสามารถสร้างสูตรแห่งชัยชนะ ด้วยข้อเสนอในด้านความทนทาน และ ความน่าเชื่อถือที่คุ้มค่าอย่างที่สุด โดยโทรศัพท์รุ่นใหม่ทั้งหมดของ Nokia ได้รับการยอมรับแล้วว่า สามารถตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าเรา”

About Post Author

เขียนความคิดเห็น

Copyright © Readspread.com ติดต่อฝ่ายข่าว Tel.089-922-7859 Email/[email protected] | Newsphere by AF themes.