กลุ่มเทสโก้ เซ็น MOU กับกระทรวงพาณิชย์
นายกฯ
เยือนอังกฤษ กลุ่มเทสโก้ เซ็น MOU กับกระทรวงพาณิชย์ เชื่อมศักยภาพค้าปลีกระดับโลก
หนุนพัฒนาสินค้าเกษตรและเอสเอ็มอีไทยเต็มสูบ
เดินหน้าตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0
เยือนอังกฤษ กลุ่มเทสโก้ เซ็น MOU กับกระทรวงพาณิชย์ เชื่อมศักยภาพค้าปลีกระดับโลก
หนุนพัฒนาสินค้าเกษตรและเอสเอ็มอีไทยเต็มสูบ
เดินหน้าตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0
เทสโก้
โลตัส ดึงกลุ่มเทสโก้ หนุนพัฒนาสินค้าเกษตรและเอสเอ็มอีไทยเต็มสูบ
ล่าสุดลงนาม MOU กับ กระทรวงพาณิชย์ ณ
กรุงลอนดอน ในโอกาสที่นายกรัฐมนตรี
นายประยุทธ์ จันทร์โอชา เยือนสหราชอาณาจักร ตกลงในความร่วมมือพัฒนาผลิตผลการเกษตร
ผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นไทย ก่อนนำไปกระจายในตลาดไทยและสู่ตลาดสากล
รุกเพิ่มมูลค่าสินค้าแบบบูรณาการ ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ
ลดความเหลื่อมล้ำสร้างความยั่งยืนให้เกษตรกรและเอสเอ็มอีไทย
โลตัส ดึงกลุ่มเทสโก้ หนุนพัฒนาสินค้าเกษตรและเอสเอ็มอีไทยเต็มสูบ
ล่าสุดลงนาม MOU กับ กระทรวงพาณิชย์ ณ
กรุงลอนดอน ในโอกาสที่นายกรัฐมนตรี
นายประยุทธ์ จันทร์โอชา เยือนสหราชอาณาจักร ตกลงในความร่วมมือพัฒนาผลิตผลการเกษตร
ผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นไทย ก่อนนำไปกระจายในตลาดไทยและสู่ตลาดสากล
รุกเพิ่มมูลค่าสินค้าแบบบูรณาการ ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ
ลดความเหลื่อมล้ำสร้างความยั่งยืนให้เกษตรกรและเอสเอ็มอีไทย
นางสาวสลิลลา
สีหพันธุ์ ประธานกรรมการฝ่ายกิจการบรรษัท
เทสโก้ โลตัส กล่าวว่า
เทสโก้ โลตัส ได้เน้นการพัฒนาเกษตรกรและเอสเอ็มอีไทยอย่างยั่งยืนนับตั้งแต่ปี พ.ศ.
2553
ด้วยการรับซื้อผลิตผลทางการเกษตรโดยตรงจากเกษตรกรในประเทศไทยโดยไม่ผ่านคนกลาง
ช่วยสร้างรายได้ที่เป็นธรรมและมั่นคงให้กับเกษตรกรเนื่อง
และจากการวางแผนรับซื้อผลผลิตล่วงหน้าร่วมกัน จวบจนในปีที่ผ่านมา พ.ศ. 2560
เทสโก้ โลตัส ได้ รับซื้อผัก ผลไม้
และเนื้อสัตว์โดยตรงจากเกษตรกรเป็นปริมาณรวมมากกว่า 200,000 ตัน
สอดคล้องกับนโยบายของกลุ่มเทสโก้ ในสหราชอาณาจักรและร้านค้าเครือข่ายอีก 10
ประเทศในยุโรปและเอเชีย ที่มีความมุ่งมั่นสร้างประโยชน์ให้กับลูกค้า
เพื่อนพนักงาน ชุมชน และมีส่วนร่วมในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมท้องถิ่นเสมอมา
จนนำมาซึ่งการลงนามบันทึกข้อตกลงระหว่างกระทรวงพาณิชย์
และกลุ่มเทสโก้ เพื่อสนับสนุน พัฒนาเกษตรกรและเอสเอ็มอีไทย
ให้เข้มแข็งอย่างยั่งยืน
สีหพันธุ์ ประธานกรรมการฝ่ายกิจการบรรษัท
เทสโก้ โลตัส กล่าวว่า
เทสโก้ โลตัส ได้เน้นการพัฒนาเกษตรกรและเอสเอ็มอีไทยอย่างยั่งยืนนับตั้งแต่ปี พ.ศ.
2553
ด้วยการรับซื้อผลิตผลทางการเกษตรโดยตรงจากเกษตรกรในประเทศไทยโดยไม่ผ่านคนกลาง
ช่วยสร้างรายได้ที่เป็นธรรมและมั่นคงให้กับเกษตรกรเนื่อง
และจากการวางแผนรับซื้อผลผลิตล่วงหน้าร่วมกัน จวบจนในปีที่ผ่านมา พ.ศ. 2560
เทสโก้ โลตัส ได้ รับซื้อผัก ผลไม้
และเนื้อสัตว์โดยตรงจากเกษตรกรเป็นปริมาณรวมมากกว่า 200,000 ตัน
สอดคล้องกับนโยบายของกลุ่มเทสโก้ ในสหราชอาณาจักรและร้านค้าเครือข่ายอีก 10
ประเทศในยุโรปและเอเชีย ที่มีความมุ่งมั่นสร้างประโยชน์ให้กับลูกค้า
เพื่อนพนักงาน ชุมชน และมีส่วนร่วมในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมท้องถิ่นเสมอมา
จนนำมาซึ่งการลงนามบันทึกข้อตกลงระหว่างกระทรวงพาณิชย์
และกลุ่มเทสโก้ เพื่อสนับสนุน พัฒนาเกษตรกรและเอสเอ็มอีไทย
ให้เข้มแข็งอย่างยั่งยืน
“กลุ่มเทสโก้ ซึ่งเป็นธุรกิจค้าปลีกชั้นนำระดับโลก
และเป็นค้าปลีกรายใหญ่ที่สุดของอังกฤษ และรัฐบาลไทย โดยกระทรวงพาณิชย์
ได้ตกลงร่วมมือในการพัฒนาสินค้าประเภทอาหาร
จากผลิตผลทางการเกษตรและผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น ซึ่งเป็นเกษตรกรและธุรกิจเอสเอ็มอีไทย
โดยการบูรณาการกระบวนการสร้างคุณค่าตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ
จนถึงปลายน้ำตลอดห่วงโซ่อุปทาน ผลักดันให้เกิดการพัฒนาที่มั่นคง มั่งคั่ง
และยั่งยืน ของเศรษฐกิจไทย อันจะนำมาซึ่งประโยชน์ให้กลุ่มต่างๆ ในสังคม
รวมถึงเกษตรกรและธุรกิจเอสเอ็มอีจะได้รับการพัฒนา
จนมีรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืนจากการค้าขายกับกลุ่มเทสโก้
ในขณะที่ผู้บริโภคและประชาชนก็จะสามารถเข้าถึงสินค้าคุณภาพสูงในราคาที่เอื้อมถึงได้”
และเป็นค้าปลีกรายใหญ่ที่สุดของอังกฤษ และรัฐบาลไทย โดยกระทรวงพาณิชย์
ได้ตกลงร่วมมือในการพัฒนาสินค้าประเภทอาหาร
จากผลิตผลทางการเกษตรและผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น ซึ่งเป็นเกษตรกรและธุรกิจเอสเอ็มอีไทย
โดยการบูรณาการกระบวนการสร้างคุณค่าตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ
จนถึงปลายน้ำตลอดห่วงโซ่อุปทาน ผลักดันให้เกิดการพัฒนาที่มั่นคง มั่งคั่ง
และยั่งยืน ของเศรษฐกิจไทย อันจะนำมาซึ่งประโยชน์ให้กลุ่มต่างๆ ในสังคม
รวมถึงเกษตรกรและธุรกิจเอสเอ็มอีจะได้รับการพัฒนา
จนมีรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืนจากการค้าขายกับกลุ่มเทสโก้
ในขณะที่ผู้บริโภคและประชาชนก็จะสามารถเข้าถึงสินค้าคุณภาพสูงในราคาที่เอื้อมถึงได้”
ทั้งนี้
ข้อตกลงในการพัฒนาผลผลิตจากเกษตรกรและเอสเอ็มอีไทยสำหรับจำหน่ายในประเทศไทยและโอกาสส่งออกไปสู่ตลาดสหราชอาณาจักร
และเครือข่ายกลุ่มเทสโก้ 10 ประเทศ
ประกอบด้วย
ข้อตกลงในการพัฒนาผลผลิตจากเกษตรกรและเอสเอ็มอีไทยสำหรับจำหน่ายในประเทศไทยและโอกาสส่งออกไปสู่ตลาดสหราชอาณาจักร
และเครือข่ายกลุ่มเทสโก้ 10 ประเทศ
ประกอบด้วย
•
ธุรกิจของกลุ่มเทสโก้ในประเทศไทย
จะร่วมมือกับรัฐบาลไทยในการรับซื้อผลิตผลทางการเกษตรคุณภาพสูงโดยตรงจากเกษตรกร
และ/หรือธุรกิจเอสเอ็มอี เพื่อยกระดับมาตรฐานการผลิต
และให้ราคาที่เป็นธรรมและยั่งยืนต่อผู้ผลิต
ธุรกิจของกลุ่มเทสโก้ในประเทศไทย
จะร่วมมือกับรัฐบาลไทยในการรับซื้อผลิตผลทางการเกษตรคุณภาพสูงโดยตรงจากเกษตรกร
และ/หรือธุรกิจเอสเอ็มอี เพื่อยกระดับมาตรฐานการผลิต
และให้ราคาที่เป็นธรรมและยั่งยืนต่อผู้ผลิต
•
กลุ่มเทสโก้
จะร่วมมือกับรัฐบาลไทยในการสร้างห่วงโซ่อุปทานที่มีจริยธรรมเพื่อปกป้องสิทธิมนุษยชนและธำรงไว้ซึ่งมาตรฐาน
กลุ่มเทสโก้
จะร่วมมือกับรัฐบาลไทยในการสร้างห่วงโซ่อุปทานที่มีจริยธรรมเพื่อปกป้องสิทธิมนุษยชนและธำรงไว้ซึ่งมาตรฐาน
•
กลุ่มเทสโก้
จะใช้ความรู้และความเชี่ยวชาญในการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารไทยให้มีมาตรฐานในระดับสากล
กลุ่มเทสโก้
จะใช้ความรู้และความเชี่ยวชาญในการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารไทยให้มีมาตรฐานในระดับสากล
•
ธุรกิจของกลุ่มเทสโก้ในประเทศไทย
จะใช้ “ศูนย์นวัตกรรม” (Innovation
Centre) ซึ่งตั้งขึ้นตามแนวคิดเดียวกันกับศูนย์นวัตกรรมในสหราชอาณาจักร
เพื่อพัฒนาสินค้าประเภทอาหารของไทย ให้มีคุณภาพสูง ดีต่อสุขภาพ
และมีเอกลักษณ์ที่แตกต่าง
ธุรกิจของกลุ่มเทสโก้ในประเทศไทย
จะใช้ “ศูนย์นวัตกรรม” (Innovation
Centre) ซึ่งตั้งขึ้นตามแนวคิดเดียวกันกับศูนย์นวัตกรรมในสหราชอาณาจักร
เพื่อพัฒนาสินค้าประเภทอาหารของไทย ให้มีคุณภาพสูง ดีต่อสุขภาพ
และมีเอกลักษณ์ที่แตกต่าง
•
สินค้าที่พัฒนาขึ้นจะนำมาจำหน่ายภายในประเทศไทย
และกลุ่มสินค้าที่เหมาะสมสำหรับการส่งออก
จะได้รับการสนับสนุนเพื่อส่งออกไปยังประเทศต่างๆ ในทวีปเอเชีย ยุโรป
และสหราชอาณาจักร ในอนาคต
สินค้าที่พัฒนาขึ้นจะนำมาจำหน่ายภายในประเทศไทย
และกลุ่มสินค้าที่เหมาะสมสำหรับการส่งออก
จะได้รับการสนับสนุนเพื่อส่งออกไปยังประเทศต่างๆ ในทวีปเอเชีย ยุโรป
และสหราชอาณาจักร ในอนาคต
•
ร้านค้าของกลุ่มเทสโก้ในทวีปเอเชีย
ยุโรป และสหราชอาณาจักร
จะให้การสนับสนุนพื้นที่จำหน่ายสินค้าและจัดกิจกรรมสนับสนุนการขาย
สำหรับผลิตภัณฑ์อาหารของไทยที่ได้รับการพัฒนาร่วมกันระหว่างรัฐบาลไทยและทีมงานของเทสโก้
ร้านค้าของกลุ่มเทสโก้ในทวีปเอเชีย
ยุโรป และสหราชอาณาจักร
จะให้การสนับสนุนพื้นที่จำหน่ายสินค้าและจัดกิจกรรมสนับสนุนการขาย
สำหรับผลิตภัณฑ์อาหารของไทยที่ได้รับการพัฒนาร่วมกันระหว่างรัฐบาลไทยและทีมงานของเทสโก้
สอดคล้องอย่างยิ่งกับ
การผลักดันยุทธศาสตร์ “ประเทศไทย 4.0”
ของกระทรวงพาณิชย์
ในการพัฒนาเศรษฐกิจไทยให้เป็นเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี
เพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าและบริการ
ซึ่งการลงนามข้อตกลงดังกล่าวเป็นรูปธรรมที่ชัดเจนในการเชื่อมโยงศักยภาพของกลุ่มเทสโก้กับการพัฒนาสินค้าเกษตรและเอสเอ็มอีไทย
เนื่องจากกลุ่มเทสโก้ เป็นหนึ่งในกลุ่มค้าปลีกชั้นนำของโลก
มีความเชี่ยวชาญในด้านการพัฒนาสินค้าประเภทอาหาร
มุ่งเน้นการพัฒนาและจำหน่ายอาหารที่มีคุณภาพสูงในราคาที่เอื้อมถึงได้
รวมถึงมีเครือข่ายร้านค้าสำหรับการขยายตลาดให้เข้าถึงผู้บริโภคใน 10 ประเทศ ทั้งในยุโรปและเอเชีย
การผลักดันยุทธศาสตร์ “ประเทศไทย 4.0”
ของกระทรวงพาณิชย์
ในการพัฒนาเศรษฐกิจไทยให้เป็นเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี
เพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าและบริการ
ซึ่งการลงนามข้อตกลงดังกล่าวเป็นรูปธรรมที่ชัดเจนในการเชื่อมโยงศักยภาพของกลุ่มเทสโก้กับการพัฒนาสินค้าเกษตรและเอสเอ็มอีไทย
เนื่องจากกลุ่มเทสโก้ เป็นหนึ่งในกลุ่มค้าปลีกชั้นนำของโลก
มีความเชี่ยวชาญในด้านการพัฒนาสินค้าประเภทอาหาร
มุ่งเน้นการพัฒนาและจำหน่ายอาหารที่มีคุณภาพสูงในราคาที่เอื้อมถึงได้
รวมถึงมีเครือข่ายร้านค้าสำหรับการขยายตลาดให้เข้าถึงผู้บริโภคใน 10 ประเทศ ทั้งในยุโรปและเอเชีย
ที่ผ่านมา
เทสโก้ โลตัส ได้ส่งเสริมการส่งออกสินค้าไทยไปยังตลาดต่างประเทศมาโดยตลอด
โดยส่งสินค้าไทยไปจำหน่ายร้านค้าของเทสโก้ที่ตั้งอยู่ใน 10
ประเทศทั่วโลก อาทิ ผลไม้ เนื้อไก่ เนื้อกุ้ง สินค้าอุปโภคบริโภค
อาหารสัตว์ เครื่องเขียน ของเล่นเด็ก เป็นต้น โดยในปี พ.ศ. 2559 สินค้าไทยที่ส่งออกไปจำหน่ายที่ร้านเทสโก้ในประเทศอังกฤษ มีมูลค่า 7,700
ล้านบาท
เทสโก้ โลตัส ได้ส่งเสริมการส่งออกสินค้าไทยไปยังตลาดต่างประเทศมาโดยตลอด
โดยส่งสินค้าไทยไปจำหน่ายร้านค้าของเทสโก้ที่ตั้งอยู่ใน 10
ประเทศทั่วโลก อาทิ ผลไม้ เนื้อไก่ เนื้อกุ้ง สินค้าอุปโภคบริโภค
อาหารสัตว์ เครื่องเขียน ของเล่นเด็ก เป็นต้น โดยในปี พ.ศ. 2559 สินค้าไทยที่ส่งออกไปจำหน่ายที่ร้านเทสโก้ในประเทศอังกฤษ มีมูลค่า 7,700
ล้านบาท
“เทสโก้ โลตัส จะเดินหน้าสนับสนุนเศรษฐกิจและสังคมไทยอย่างต่อเนื่อง
โดยเราหวังว่าจะช่วยสร้างรายได้ที่มั่นคงเพิ่มเติม
ให้แก่ผู้ประกอบการและเกษตรกรไทย จากการช่วยเปิดตลาดใหม่ในต่างประเทศ” นางสาวสลิลลา กล่าว
โดยเราหวังว่าจะช่วยสร้างรายได้ที่มั่นคงเพิ่มเติม
ให้แก่ผู้ประกอบการและเกษตรกรไทย จากการช่วยเปิดตลาดใหม่ในต่างประเทศ” นางสาวสลิลลา กล่าว