ภาคิน วณิชภิรมย์ “โอกาส” เกิดได้ทุกวันกับคนที่มองหาเสมอ
แต่กับชายหนุ่มผู้มีรอยยิ้มเปื้อนใบหน้าคนนี้ คิน – ภาคิน วณิชภิรมย์ ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร คิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด บริษัทสื่อโฆษณาและแบรนดิ้งที่มาแรงและน่าจับตามองที่สุด ณ วินาทีนี้ ‘โอกาส’ เกิดขึ้นในทุกวัน แต่…สำหรับคนที่กวาดสายตามอง ค้นหา และคว้ามันมาครอบครอง
“ตอนเรียนชั้นมัธยมต้น ผมสังเกตเห็นคนแถวบ้านเอาแชมพูยี่ห้อหนึ่งมาล้างรถ เลยเกิดไอเดียและเริ่มคิดผลิตแชมพูล้างรถด้วยสูตรที่ตนเองคิดขึ้น กรอกใส่ขวดขาย เอาไปฝากร้านโชห่วย ได้กำไรไม่มากครับแต่เป็นความภูมิใจที่สามารถหาเงินได้ด้วยตัวเองครั้งแรก”
ภาคินถ่อมตัวว่าไม่ใช่คนเรียนหนังสือเก่ง แต่ชัดเจนในตัวเอง และเลือกทางเดินชีวิตด้วยการเลือกเรียนสายวิชาชีพ แน่นอน, เขาเลือกทางเดินถูก
“ผมมีความมุ่งมั่นเดินตามเป้าหมาย โดยตั้งใจเรียนสายอาชีพ และเลือกเรียนด้านการขาย การตลาด เพราะงานขายเปรียบเสมือนพ่อบ้าน มีหน้าที่หาเงินเข้าบ้าน โดยที่บ้าน ทั้งพ่อและแม่ปลูกฝังผมมาตั้งแต่เด็กในเรื่องการค้าขาย
“หลังเรียนจบ ม.3 ผมเลือกเรียนต่อระดับ ปวช. และ ปวส. สายการขาย ที่สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตบพิตรมุข จักรวรรดิ์ และเรียนต่อระดับปริญญาตรี และโท MBA การตลาด ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง”
ชายหนุ่มมีมุมมองในเรื่องความสำเร็จชัดเจน โดยเขามุ่งมั่นสร้างสมมันมาโดยตลอด
“ผมถูกปลูกฝังให้ขยัน อดทน มาตั้งแต่เด็ก ถ้าเราอยากสบายในอนาคต ต้องใช้สมองมากกว่าแรงงาน ฉะนั้นอะไรล่ะ คือสิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตเรา นั่นคือ ‘โอกาส’ ถ้าอยากมีโอกาสมากกว่าคนอื่น แม้จะเรียนหนังสือไม่เก่ง เราก็ต้องมีประสบการณ์มากกว่าใครเขา สิ่งเหล่านี้หล่อหลอมผมมาตั้งแต่เด็ก มันทำให้ผมมีความขยัน และอดทนเป็นพื้นฐาน กับเชื่อว่าหากเราขยันและอดทนได้มาก ไม่ว่าทำอะไรก็สามารถเติบโตและประสบผลสำเร็จได้ทุกเมื่อ”
ภาคินเลือกเรียนต่อปริญญาตรี ภาคค่ำ ควบคู่ไปกับการเริ่มต้นทำงานในตำแหน่ง Sale Representative ที่ บริษัท ดีทแฮล์ม จำกัด ในแผนกยา เขาเล่าย้อนประสบการณ์ทำงานครั้งแรกให้ฟังว่า
“หัวหน้างานในสมัยนั้นถามผมว่า เขาจะรู้ได้อย่างไรว่าผมจะขายของได้ เพราะไม่ได้มีความรู้เรื่องยา ผมตอบไปด้วยความอยากได้งานว่า สำหรับผม ผมขายอะไรก็ขายได้หมด ขอให้มีสินค้าให้ขาย โดยผมอ้างอิงเรื่องการขายแชมพูล้างรถในวัยเด็กของตัวเอง ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าแชมพูผลิตอย่างไร แต่ทุกอย่างมันมีจุดเริ่มต้นทั้งนั้น
“สิ่งที่ผมพยายามบอกกับหัวหน้าคือ ผมเข้าใจจุดอ่อนของตัวเองที่ตอนนั้นยังเป็นเด็ก แต่หากผมได้โอกาสที่ดีสักครั้ง ผมจะสร้างผลงานที่ทำให้เขาประทับใจ ด้วย บริษัท ดีทแฮล์ม เป็นดิสทริบิวเตอร์ เขาคงต้องการเซลล์ที่ขยันและเก่ง นั่นเป็นคำตอบที่ทำให้ผมได้ทำงานแรกที่นั่น”
จาก ดีทแฮล์ม ชายหนุ่มสั่งสมประสบการณ์การทำงานต่อเนื่องที่บริษัท บุญรอด เทรดดิ้ง จำกัด ในตำแหน่งเจ้าหน้าที่การตลาด ดูแลขอบเขตงานกลุ่มร้านอาหาร ควบคู่ไปกับการเรียนต่อปริญญาโท
“ตลอดช่วงชีวิตที่โหมทั้งงานและการเรียน ผมมีหลักคิดในการแบ่งเวลาชีวิตอย่างสมดุล คือ ทำสิ่งที่สำคัญก่อน และทำในสิ่งที่ไม่สำคัญในเวลาที่เหมาะสม
“ตอนเรียน ผมเรียนหนัก แต่ถึงอย่างไรก็ต้องแบ่งเวลาการทำงานให้เป็นสิ่งสำคัญก่อน แน่นอนว่าการทำงานแลกมาด้วยผลตอบแทน แต่หลังจบเวลาทำงาน ผมใช้เวลาที่ต้องพักผ่อนมาอ่านหนังสือเรียน โดยเลือกทำสองสิ่งนี้พร้อมกัน เพื่อให้เกิดผลสำเร็จแบบคู่ขนาน”
จุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิต คือการเดินเข้าสู่วงการธุรกิจสื่อโฆษณาแบบเต็วตัว
“การเป็นเจ้าของธุรกิจสื่อโฆษณา เริ่มต้นจากผมเห็นโอกาสหลังเปลี่ยนมาร่วมงานกับบริษัทของคุณอา ที่ทำเกี่ยวกับสื่อโฆษณากลางแจ้ง โดยการใช้ประสบการณ์เรียนและการทำงานที่สะสมมากกว่า 20 ปี จนสามารถเข้าใจเรื่องการผลิตและการลดต้นทุน
“จากนั้นจึงออกมาเปิดบริษัทของตัวเอง ช่วงแรกพบการแข่งขันที่รุนแรงด้านราคา ซึ่งตอนนั้นผมพยายามหาจุดขาย สร้างแบรนด์ของ KIN Corporation ด้วยการนำเสนอสื่อป้ายโฆษณากลางแจ้งให้กับลูกค้ากลุ่ม Real Estate โดยโฟกัสไปที่สื่อที่สร้างความแปลกใหม่ และจัดสรรงบประมาณการใช้สื่ออย่างมีประสิทธิภาพจนได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า”
กระทั่งเกิดวิกฤต Covid-19 สื่อออนไลน์เข้ามามีบทบาท นั่นเป็นสถานการณ์ภาคบังคับ ทำให้ KIN Corp. เดินทางถึงจุดเปลี่ยน วิ่งตามกระแสโลกออนไลน์ให้ทัน หลังพฤติกรรมผู้บริโภค คนออกจากบ้านลดลง Work from Home มากขึ้น
“เมื่อลงมาเล่นกับสื่อใหม่ แต่เราไม่ได้ทิ้งสื่อเก่า ในสถานการณ์ Covid-19 เราต้องปรับตัวคู่ขนานกันไป โดยผมปรับวิธีการขายใหม่ ต้องเรียนรู้สื่อออนไลน์ใหม่ทั้งหมด ผมเชื่อว่าแม้ความรู้ของคนไม่เท่ากัน แต่สามารถศึกษาให้รู้เท่ากันได้
“ผมมี Mind Set ร่วมกับน้องๆ ในทีมว่า ไม่เป็นไร ทำอะไรได้ให้ทำไปก่อน และแก้ไขให้ดีขึ้น…จนประสบความสำเร็จ ผมเรียนรู้ธุรกิจออนไลน์ในช่วง Covid -19 ช่วงปีแรก ยอดขายยังน้อย ขาดทุนเลยละ แต่ผมมองว่าแนวโน้มในอนาคตจะดี และทำให้เกิด Know How ใหม่ๆ ทั้งเรื่องกลวิธี การปรับ Contents และ Artwork ให้กับลูกค้า นี่เป็นสิ่งที่เราพัฒนาน้องในทีมทุกคน จนสามารถทำตลาดออนไลน์ให้ติด รวมถึงทำ Data Analysis ที่เป็น Asset ที่ดีที่สุด
“จุดเด่นที่ทำให้ KIN Corp. ประสบความสำเร็จคือลูกค้าที่มาใช้บริการกับ KIN Corp. สามารถลดต้นทุนให้กับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ” ภาคินย้ำจุดแข็งของ KIN Corp.
ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรงและต่อเนื่องของสื่อโฆษณาทั้งออฟไลน์และออนไลน์ KIN Corp. ภายใต้การกุมบังเหียนของ ภาคิน วณิชภิรมย์ คือทางเลือกที่ดีและน่าสนใจในการแย่งชิงพื้นที่และเกี่ยวสายตาทุกคู่ผ่านช่องทางสื่อที่หลากหลาย
แน่นอน, ชายหนุ่มไม่เคยปล่อยโอกาสหลุดลอย ตรงกันข้าม เขาไขว่คว้า และขยันมองหาโอกาสใหม่เพื่อต่อยอดโอกาสทางธุรกิจให้กับ KIN Corp. เสมอ