Readspread.com

News and Article

ภาวะสมองล้า อันตรายยิ่งกว่าภาวะหมดไฟในการทำงาน

หลายคนอาจจะเคยได้ยินอาการที่เรียกว่าภาวะหมดไฟในการทำงาน (Burn out syndrome) ที่เกิดจากความเหนื่อยล้าสะสมจากการทำงานอย่างต่อเนื่อง ทำให้หมดไฟในการทำงาน ขาดประสิทธิภาพในการทำงาน และส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกาย แต่อาการเหล่านี้ยังไม่ร้ายแรงเท่า ภาวะสมองล้า (Brain fog syndrome) เป็นอาการที่สะท้อนถึงสมองที่ทำงานหนักมากเกินไป จนเกิดอาการล้า ทำให้เกิดอาการหัวตื้อคิดอะไรไม่ออก ขาดสมาธิในการทำงาน เสมือนความคิดถูกปกคลุมไปด้วยหมอก ไม่แจ่มใส ชัดเจน
Burn out syndrome

Burn out syndrome

หลายคนอาจจะเคยได้ยินอาการที่เรียกว่าภาวะหมดไฟในการทำงาน (Burn out syndrome) ที่เกิดจากความเหนื่อยล้าสะสมจากการทำงานอย่างต่อเนื่อง ทำให้หมดไฟในการทำงาน ขาดประสิทธิภาพในการทำงาน และส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกาย แต่อาการเหล่านี้ยังไม่ร้ายแรงเท่า ภาวะสมองล้า (Brain fog syndrome) เป็นอาการที่สะท้อนถึงสมองที่ทำงานหนักมากเกินไป จนเกิดอาการล้า ทำให้เกิดอาการหัวตื้อคิดอะไรไม่ออก ขาดสมาธิในการทำงาน เสมือนความคิดถูกปกคลุมไปด้วยหมอก ไม่แจ่มใส ชัดเจน

สาเหตุของการเกิดภาวะสมองล้า

-พักผ่อนไม่เพียงพอ ต่อเนื่องเป็นเวลานาน

-ทำงานที่มีความกดดันสูง

-ทำงานในลักษณะมัลติฟังก์ชั่น หรือทำงานหลายอย่างในเวลาเดียวกัน และเป็นงานที่ต้องใช้สมองความคิดอย่างมาก

ลักษณะอาการ

สมองตื้อ คิดงานไม่ได้

นอนไม่หลับ หรือตื่นกลางดึกบ่อยๆ

ไม่อยากทำงาน หมดไฟในการทำงาน ไม่อยากทำงานที่ใช้ความคิด

มีอาการหลงลืมมากขึ้น

ผลเสียระยะยาว

อาจะก่อให้เกิดโรคอัลไซเมอร์ ฟ

แนวทางการรักษา

ผู้ป่วยควรพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยอาการ อย่างแท้จริง เพราะอาการสมองล้า มีความใกล้เคียงกับอาการอื่นเช่น ภาวะหมดไฟในการทำงาน โรคสมาธิสั้น หรืออาการทางระบบร่างกายอื่นที่ทำให้คุณมีอาการใกล้เคียงกัน เพื่อให้คุณได้รับการรักษาอย่างตรงจุด นอกจากนี้คุณอาจจะเลือกวิธีการจัดสรรเวลาพักผ่อนและออกกำลังกายให้มากขึ้น หรือเริ่มมองหางานใหม่ที่ทำให้คุณมีเวลาพักผ่อน และทำงานที่มีความรับผิดชอบเฉพาะด้านใดด้านหนึ่งโดยตรงที่จะทำให้คุณมีสมาธิโฟกัสกับงาน ไม่พะวงถึงงานอื่นที่ซ้อนทับเข้ามา ทำให้มีประสิทธิภาพในการทำงานที่มากขึ้น

About Post Author

ใส่ความเห็น

Copyright © Readspread.com ติดต่อฝ่ายข่าว Tel.089-922-7859 Email/[email protected] | Newsphere by AF themes.